สมัครสมาชิกเพื่อลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดินฟรี

รอบรู้เรื่องพื้นๆ (การปูพื้นบ้าน)

รอบรู้เรื่องพื้นๆ (การปูพื้นบ้าน)

        ดูรถยังต้องดูการตกแต่งภายใน การเลือกใช้วัสดุ บ้านก็เช่นกัน พื้นบ้านเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่มีความโดดเด่นเมื่อมองเข้ามาในตัวบ้าน  และเมื่อมีความโดดเด่น เราจะทำอย่างไรให้ดูดี เพราะคำว่าเด่น ไม่ได้แปลว่าสวย หรือดูดีเสมอไป ดังนั้นเมื่อโดดเด่นแล้ว เราก็ต้องสร้างสรรค์ให้เด่น และสวยด้วย

        การเลือกวัสดุปูพื้นบ้านสำคัญ เพราะจะสะท้อนถึงรสนิยมและระดับของผู้อยู่อาศัยด้วย  วัสดุปูพื้นบ้านมีหลายชนิด ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ดังนี้

1. กระเบื้องเซรามิค มีลักษณะมันเงา สีสดใส มีลวดลายสวยงาม มีความทนทานแข็งแรง กันน้ำได้ดี และทำความสะอาดง่าย ราคาถูกกว่าไม้ การผลิตผลิตกจากวัสดุเซรามิคเคลือบสีแล้วเผาด้วยอุณหภูมิสูง การใช้งานใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกตัวบ้าน แต่ไม่นิยมใช้ในห้องนอนและห้องนั่งเล่น เนื่องจากกระเบื้องเซรามิคจะให้ความรู้สึกค่อนข้างแข็ง และมีความเย็น

2. กระเบื้องยาง เป็นกระเบื้องที่ทำมาจากยางพีวีซี จะให้ความรู้สึกสัมผัสที่นุ่มนวลกว่าเมื่อเทียบกับกระเบื้องเคลือบ ราคาไม่แพง การติดตั้งและปรับเปลี่ยน แต่เมื่อถูกใช้งานไปนานๆ ผิวยางจะสึกหรอและเป็นรอยขีดข่วนง่าย มีอายุการใช้งานสั้น พื้นที่จะปูกระเบื้องยางได้นั้นราบเรียบเสมอกันทั้งหมด กระเบื้องยางไม่ค่อยนิยมใช้ปูในบ้าน และเหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็วและประหยัด

3. ไม้จริง ไม้ส่วนมากที่เอามาใช้เป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้แดง ไม้ประดู่ การใช้พื้นไม้จะให้ความรู้สึกอมอุ่น ดูดี มีราคา เนื้อไม้จะมีลวดลายสวยงาม แข็งแรงและมีความคงทน แต่จะมีราคาแพงและหายาก

4. ไม้ปาร์เก้  เป็นวัสดุที่ทำมาจากไม้ชิ้นเล็กๆ มีขนาดเล็กกว่าไม่พื้นแผ่นจริงมาก สามารถเลือกลวดลายในหารปูได้ และมีราคาถูกกว่า ทำความสะอาดง่าย แต่ต้องระวังเรื่องการขีดข่วน และสิ่งที่ต้องระวัง เวลาปู คอนกรีตแห้งสนิท และพร้อมทากันซึมด้วย กาวจะต้องดี ปูไม้ปาร์เก้แล้วต้องทิ้งไว้นานๆ เพื่อรอให้กาวแห้งสนิทก่อนขัดพื้น ที่สำคัญอย่าอัดแผ่นไม้ปาร์เก้แน่นเกินไป เพราะ อาจจะเกิดปัญหาแผ่นไม้งอได้ในภายหลัง เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง

5. ไม้ลามิเนต เป็นวัสดุไม้สำเร็จรูปที่ทำโดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำมาเพื่อทดแทนพื้นไม้จริงและไม้ปาร์เก้ โดยจะทนแรงกระแทกและแรงกดได้ดีกว่า ทนความร้อนได้ระดับหนึ่ง ทำความสะอาดง่าย และสามารถปูซ้ำใหม่ได้ทันทีหากต้องการโยกย้าย เหมาะสำหรับใช้ปูในห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น

6. หินอ่อน- หินแกรนิต เป็นวัสดุหินจากธรรมชาติ แข็งแรง มีอายุการใช้งานยาวนาน ดูแลทำความสะอาดง่าย แต่มีราคาแพง และเมื่อเปียกน้ำจะลื่น สำหรับหินอ่อน นิยมใช้กับการปูตกแต่งภายนอก และหินแกรนิต เหมาะสำหรับปูในบ้าน

7. หินขัด เป็นวัสดุที่สามารถสร้างลวดลายได้หลายรูปแบบ มีความแข็งแรง ดูแลรักษาง่าย ราคาไม่แพง และสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้หินขัดกันแล้ว เพราะมีวัสดุทนแทนที่ดูสวย หรูหรามากกว่า

8. อีฟ๊อกซี่ เป็นสารที่ใช้เคลือบพื้นผิวปูน เพื่อปกป้องพื้นผิวแตกร้าว และมีคุณสมบัติคือ พื้นไร้รอยต่อ แข็งแกร่ง ทนต่อสารเคมีทุกชนิด ทำความสะอาดง่าย พื้นประเภทนี้นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีหลากหลายสีและพื้นผิวหลายชนิดให้เลือกใช้

9. พรม เป็นวัสดุปูพื้นที่มีความนุ่มสบาย สวยงาม ให้ความรู้สึกหรูหรา ติดตั้งง่าย แต่มีข้อเสียคือ ติดไฟง่าย ดูแลยาก ดังนั้นจงไม่ควรใช้ปุทั้งบ้าน ควรปูเฉพาะจุด และเหมาะใช้งานมากที่สุดในห้องรับแขก ห้องรนั่งเล่น และห้องนอน เป็นต้น

         เป็นอย่างไรบ้างครับ วัสดุปูพื้นนั้นมีให้เลือกหลากหลายเลยใช่ไหม ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า วัสดุปูพื้นนับวันก็มีการผลิตออกแบบมาใหม่ๆ สวยๆ เยอะแยะ ให้ทุกคนได้ตัดสินใจเลือกใช้งานให้เหมาะสม และควรศึกษารายละเอียดการใช้งาน การดูแลให้รอบคอบนะครับ

แก้ไขเมื่อ : 29 พ.ค. 2557 00:14     ดู 2,034 ครั้ง



คู่มืออื่นเกี่ยวกับ ความรู้ คู่บ้าน
ย้ายแอร์จากบ้านหลังเก่าไปบ้านใหม่ คิดดีๆ บางทีซื้อใหม่อาจจะคุ้มค่ากว่า
ย้ายแอร์จากบ้านหลังเก่าไปบ้านหลังใหม่ คิดดีๆ บางทีซื้อใหม่อาจจะคุ้มกว่า
บ้าน 2 ชั้น ร่วมสมัย หลังคาปั้นหยา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ งบ 2.3 ล้านบาท
บ้านแนวร่วมสมัย 2 ชั้น หลังคาทรงปั้นหยา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยรวม 205 ตารางเมตร ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบจากทางเพจ HOUSE41studio แบบบ้าน
DIY การล้างแอร์ด้วยตัวเอง รวมถึงคอยล์เย็น และ พัดลมแอร์ด้วย
DIY การล้างแอร์ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อช่าง
5 ต้นไม้ฟอกอากาศ ดูดสารพิษในบ้านได้โดยต้นไม้แบบไทยๆ
ช่วงวิกฤษของมลพิษทางอากาศตอนนี้ใครก็ต้องหาวิธีเอาตัวรอดจากฝุ่นในเมืองกรุงให้ได้ นอกจากหน้ากากกันฝุ่นแล้วยังมีการปลูกต้นไม้ไว้ในบ้านก็ช่วยได้เช่นกัน วันนี้ Property2share ขอนำเสนอต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ควรปลูกไว้ติดบ้านครับอากาศจะได้สะอาดขึ้น
สร้างบ้านอย่างไร ไม่ต้องกลัวน้ำท่วม
เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดภัยน้ำท่วม จากเหตุการณ์น้ำท่วมประเทศไทยครั้งใหญ่ เมื่อปี พ.ศ. 2554 หลายคนคงต้องการยกพื้นบ้านให้สูงขึ้น หรือเรียกอีกอย่างว่า “การดีดบ้าน” ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี คือ การขุดดินใต้บ้าน สกัดตอม่อเดิมเพื่อแยกบ้านออกจากฐาน
อ่านความรู้ คู่บ้านทั้งหมด

ผู้สนับสนุน
Facebook